การจัดแสงและเทคนิคการถ่ายรูปพระเครื่องให้สวยด้วยโทรศัพท์มือถือและแทปเล็ต

อุปกรณ์สำหรับถ่ายภาพพระเครื่องประกอบด้วย

1. แท่นถ่ายภาพหรือขาตั้งกล้องที่สามารถปรับเลื่อนสูงต่ำได้ และตัวจับยึดโทรศัพท์ฯ
2. แท่นหรือโต๊ะกระจกตัดแสง สำหรับวางพระ
3. แผ่นฉากหลังหลากหลายสี ทำจากโฟมยาง ผ้าสักหลาด หรือ กระดาษสีก็ได้
4. โคมไฟพร้อมหลอดไฟแสงสีขาว (ข้างกล่องระบุคำว่า Cool day light) แนะนำให้ใช้หลอดกลม LED 9-14 วัตต์ โคมไฟควรใช้เป็นโคมทรงกลมคล้ายกับโคมในรูปด้านล่าง จะสูงหรือต่ำกว่านี้ก็ได้  แนะนำให้ใช้จำนวน 2 ชุดขึ้นไป

5. แหวนยาง มีไว้สำหรับรองพระ ก่อนวางพระลงบนกระจก  ไม่ให้พระเสียดสีกับกระจก เพื่อป้องกันพระเป็นรอย
6. กาวดินน้ำมัน เอาไว้รองติดใต้พระเครื่องเพื่อตะแคงเอียงเหรียญหามุมแสงตกกระทบกับผิวเหรียญ ให้ได้สีผิวเหรียญ เช่น ผิวรุ้ง ผิวปรอท หรือผิวไฟ มากน้อยตามที่ต้องการ แสดงตามรูปด้านล่าง


   หรือเอาไว้ถ่ายขอบด้านข้างพระหรือถ่ายก้นพระ แสดงตามรูปด้านล่าง


   
เอาไว้รองใต้พระกริ่ง พระรูปหล่อ รูปเหมือน เพื่อให้พระวางบนกระจกในแนวราบเสมอกันทั้งองค์ แสดงตามรูปด้านล่าง

   
   กาวดินน้ำมันนี้จะไม่มีน้ำมันเหมือนดินน้ำมันทั่วไป จะไม่ทำลายเนื้อพระ (หาซื้อตามร้านเครื่องเขียน เช่น ยี่ห้อ UHU แสดงดังรูปด้านล่าง)

        หลักนิยมในการถ่ายรูปพระเครื่องนั้น คือการถ่ายภาพให้ได้ภาพพระเครื่องที่มีลักษณะลอยเด่นขึ้นมาจากพื้นหลัง และให้พื้นหลังของภาพมีสีต่างๆตามที่ต้องการ โดยปราศจากเงาของพระเครื่องติดอยู่ที่พื้นหลังของภาพ (ตัวอย่างภาพถ่าย ดูรูปด้านล่าง)




    การจะได้ภาพพระเครื่องในลักษณะดังกล่าว ทำได้โดยถ่ายรูปพระเครื่องที่วางอยู่บนกระจก ซึ่งวางยกสูงจากพื้นประมาน 2-4 นิ้ว โดยมีแผ่นฉากหลังสีต่างๆสอดไว้ด้านล่างของกระจก  กระจกจะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้ภาพพระเครื่องลอยเด่นขึ้นจากพื้น นอกจากนี้ยังช่วยให้เงาของพระเครื่องถูกหักเหทอดหายออกไป ไม่ติดลงที่ฉากหลังของภาพอีกด้วย กระจกที่ใช้ควรเป็นกระจกตัดแสง ไม่ใช่กระจกธรรมดา เนื่องจากว่า หากใช้กระจกธรรมดา เงาของวัตถุต่างๆที่อยู่ด้านบน เช่น เงาของโทรศัพท์หรือกล้อง เงาของคนถ่าย จะติดลงไปในภาพ แต่กระจกตัดแสง จะช่วยลดเงาดังกล่าวได้เป็นอย่างดี 

     หากต้องการแต่งภาพพื้นหลังใหม่ เพื่อให้ได้สีพื้นหลังเข้มตามที่ต้องการ กรณีใช้เครื่องคอมพิมเตอร์ PC แนะนำให้ใช้โปรแกรม Photoshop แต่ผู้ใช้งานต้องมีความรู้พื้นฐานการใช้โปรแกรมดังกล่าวพอสมควร ทั้งนี้สามารถเข้าอินเตอร์เน็ตเพื่อค้นหาดูคลิปวิดีโอสอนวิธีการแต่งภาพพื้นหลังพระเครื่องโดยใช้ Photoshop ได้  นอกจากนี้โปรแกรม Photoshop ยังมีลูกเล่นในการแต่งภาพมากมาย จึงเหมาะกับท่านที่ชื่นชอบและสนใจการถ่ายภาพพระเครื่องจริงๆ หรือเหมาะกับมืออาชีพ กรณีเป็นมือสมัครเล่นหรือต้องการตกแต่งเปลี่ยนภาพพื้นหลังอย่างเดียว แนะนำให้ใช้โทรศัพท์มือถือแล้วใช้แอป Photoroom ซึ่งเป็นแอปที่ใช้งานง่ายมาก ไม่กี่ขั้นตอน ก็ได้ภาพพระเครื่องที่เปลี่ยนพื้นหลังใหม่แบบสวยๆเนียนๆแล้วครับ

   หากต้องการเปลี่ยนภาพพื้นหลังใหม่ แนะนำให้ถ่ายบนกระจกตัดแสงเช่นเดิม แต่ให้ใช้ฉากหลังสีขาว  กระจกตัดแสงพร้อมกับฉากหลังสีขาวจะช่วยลดแสงเงาต่างๆได้ดี  ทำให้ง่ายต่อการเปลี่ยนพื้นหลังมาก ส่งผลให้ภาพออกมาสวยเนียน  ภาพด้านล่างแสดงเปรียบเทียบให้เห็นระหว่างภาพดิบที่ถ่ายบนกระจกตัดแสงพรัอมกับฉากหลังสีขาว กับภาพหลังจากใช้แอป Photoroom เปลี่ยนพื้นหลังแล้ว

 หลังจากนั้นให้กดชัตเตอร์ (ดูขั้นตอนตามรูปด้านล่าง) 



   
   3. ปัจจุบันโทรศัพท์ส่วนใหญ่จะมีโหมดมาโคร (ดูตามรูปด้านล่าง)  แต่ไม่แนะนำให้ใช้โหมดมาโครของโทรศัพท์ในการถ่ายพระเครื่อง เนื่องจากระยะโฟกัสของโหมดมาโครอยู่ราวๆ 3-5 cm  ดังนั้นการถ่ายภาพด้วยโหมดมาโคร  โทรศัพท์จะอยู่ใกล้พระเครื่องมากจนทำให้บังแสงที่จะส่องไปยังพระเครื่อง  ภาพที่ได้จะมืด ไม่สวย ขาดความคมชัด และความคมชัดของภาพพระของการถ่ายด้วยโหมดมาโครของโทรศัพท์ไม่ต่างจากการถ่ายด้วยโหมดถ่ายรูปปกติสักเท่าไร

    หากท่านใดต้องการภาพที่มีความคมชัดมากขึ้น ผมแนะนำให้ใช้เลนส์มาโคร ยี่ห้อ Max Macro 100 mm เป็นเลนส์มีคุณภาพสูง มีความคมชัด เก็บรายละเอียดได้ดีเยี่ยม มีระยะโฟกัสมากขึ้นอยู่ที่ 4-7 cm   เมื่อใส่เลนน์ตัวนี้เข้ากับโทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์จะห่างจากพระเครื่องราวๆ 7-10 cm ทำให้แสงสามารถลอดผ่านเข้าถึงพระเครื่องได้มากขึ้น ถ้าใช้เลนส์ตัวนี้และจัดแสงได้ดี จะได้ภาพที่มีความคมชัดมาก ภาพด้านล่างเป็นตัวอย่างภาพที่ได้จากมือถือพร้อมกับเลนส์ Max Macro 100 mmและเปลี่ยนพื้นหลังใหม่โดยใช้แอป Photoroom

    4. สุดท้าย ภาพถ่ายพระเครื่องที่ได้จะมีสีสันสวยหรือคมชัดขนาดไหน ขึ้นอยู่กับการจัดแสง เทคนิคการถ่ายรูปของแต่ละคน คุณภาพของโทรศัพท์  และขาดเสียไม่ได้คือ แท่นถ่ายภาพหรือขาตั้งกล้อง เพราะการถ่ายภาพมาโครต้องการความนิ่งของภาพอย่างสมบูรณ์  และ กระจกตัดแสงซึ่งช่วยลดเงามืด เงาดำออกจากภาพถ่าย หากต้องการปรับเปลี่ยนสีพื้นหลังของภาพใหม่โดยใช้โปรแกรมตกแต่งภาพ  ภาพถ่ายพระเครื่องที่วางบนกระจกตัดแสงจะปรับเปลี่ยนสีพื้นหลังด้วยโปรแกรมตกแต่งภาพ เช่นแอป Photoroom หรือโปรแกรม Photoshop  ได้ง่ายขี้นมาก

เทคนิคการจัดแสง การถ่ายภาพพระเครื่องด้วยโทรศัพท์ Smartphone 
     การจัดแสงไฟสำหรับถ่ายภาพพระเครื่องแบ่งออกเป็น 2 แบบใหญ่ๆ คือ การจัดไฟต่ำ และการจัดไฟสูง  ซึ่งการจัดไฟต่ำ  ภาพพระที่ได้จะมีมิติ มีความตื้นลึก มีแสงเงามากกว่าการจัดไฟสูง ส่วนไฟสูง  ภาพที่ได้จะมีมิติน้อยกว่า ภาพจะค่อนข้างแบนราบ แต่จะได้ความคมชัดของลายเส้น ความคมชัดของตัวหนังสือมากกว่า และไฟสูงจะช่วยให้ผิวพระเกิด ผิวรุ้ง ผิวปรอท หรือผิวไฟ ดังนั้นเพื่อให้ภาพออกมาสวยคมชัด การถ่ายภาพพระแต่ละประเภท ควรใช้การจัดไฟที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ การจัดไฟต่ำจะไม่มีปัญหาเรื่องโทรศัพท์ฯบังแสง เนื่องจากแสงไฟสามารถทะลุลอดเข้าไปถึงพระได้  แต่การจัดไฟสูงจะมีปัญหาเรื่องโทรศัพท์บังแสง  เนื่องจากระยะโฟกัสของโทรศัพท์อยู่ราวๆ 7-10 cm เวลาถ่ายภาพ โทรศัพท์จะอยู่ใกล้พระเครื่องค่อนข้างมาก แสงไฟที่ส่องมาจากด้านบนสูงๆ จะถูกโทรศัพท์บัง  ไฟจะเข้าไม่ถึงพระเครื่อง ภาพที่ได้จะมืด ภาพขาดความคมชัดและความสวยงาม  ไม่เหมือนกับการถ่ายภาพด้วยกล้องโปร DSLR ซึ่งมีระยะโฟกัสมากกว่ามาก เวลาถ่ายภาพ กล้องโปรจะอยู่ห่างสูงจากพระมาก จึงไม่มีปัญหาเรื่องการจัดแสง  อย่างไรก็ตาม ยังพอมีเทคนิคที่ช่วยการจัดแสงการถ่ายภาพพระด้วยโทรศัพท์มือถือดีขึ้น ซึ่งเทคนิคมีดังต่อไปนี้ 

   1. การถ่ายพระเนื้อผง พระเนื้อดิน พระสมเด็จ พระรูปหล่อ พระกริ่ง ให้ใช้ไฟต่ำ โคมไฟสูงประมาณ 1 ฟุต หรือ 30-40 ซม. ภาพที่ได้จะมีมิติ มีแสงเงามากกว่าการจัดไฟสูง ให้ส่องโคมไฟมาทางด้านศรีษะพระ  การวางโคมไฟเป็นไปตามภาพด้านล่าง




   ลองเลื่อนโคมไฟเข้าใกล้หรือออกห่าง ลองจัดโคมไฟก้มลงหรือเงยขึ้น เพื่อให้ได้ภาพที่มีความสว่าง มีความมืด หรือมีมิติมากน้อยตามที่ต้องการ การจัดไฟต่ำจะไม่เกิดปัญหาเรื่องโทรศัพท์บังแสง เนื่องจากไฟสามารถทะลุลอดเข้าไปถึงพระได้
   อย่างไรก็ตาม การถ่ายภาพพระสมเด็จ หรือพระที่มีลักษณะคล้ายๆกัน  การจัดไฟต่ำจะทำให้ภาพด้านล่างของพระเกิดเงามืด วิธีการแก้ไข ให้ใช้วัสดุสีขาว เช่นแผ่นกระดาษ แผ่นโฟม หรือกล่องใส่พระสีขาว วางไว้ด้านล่างของพระเพื่อให้แสงสะท้อนกลับมาส่องที่บริเวณด้านล่างของพระ จะทำให้ด้านล่างของพระสว่างขึ้น ภาพด้านล่างแสดงการใช้กล่องใส่พระสีขาววางไว้ด้านล่างของพระ



   ภาพด้านล่าง แสดงเปรียบเทียบให้เห็นระหว่างภาพแรก เป็นภาพพระที่ไม่ได้วางกล่องสีขาวไว้ด้านล่างของพระ ทำให้ด้านล่างของภาพมืด กับภาพที่สอง เป็นภาพพระหลังจากวางกล่องสีขาว ทำให้ด้านล่างของภาพสว่างขึ้น



    การถ่ายพระกริ่ง หรือพระรูปหล่อ มีข้อควรระวังคือ พระส่วนใหญ่ ด้านล่างของพระจะหนาหรืออ้วนกว่าด้านบน เวลาวางพระบนกระจก พระจะไม่อยู่ในแนวราบเสมอกันทั้งองค์ วิธีการแก้ไข ให้ใช้กาวดินน้ำมันรองใต้พระ ให้พระอยู่ในแนวราบเสมอกันทั้งองค์



   ภาพด้านล่างเป็นภาพดิบๆที่ไม่ใช้แอปหรือโปรแกรมฯเปลี่ยนสีพื้นหลังใหม่


   2. การถ่ายพระเหรียญโลหะ ให้ใช้ไฟสูง โดยใช้โคมไฟสูงประมาณสัก 2 ฟุต หรือ 60 ซม. หรือหาอะไรหนุนโคมไฟที่มีอยู่ให้สูงขึ้นให้เท่ากับระยะดังกล่าวก็ได้  แล้วให้ส่องไฟทำมุมกระทบกับผิวเหรียญประมาณ 70-80 องศา กระทบเกือบตั้งฉากกับเหรียญ  การจัดแสงไฟลักษณะนี้ จะทำให้ผิวเหรียญเกิด ผิวรุ้ง ผิวปรอท หรือผิวไฟ มากขึ้น และช่วยทำให้ตัวหนังสือ เส้นสายต่างๆ ขนแมว คมชัดมากขึ้น


   แต่การจัดไฟสูง ปัญหาที่ตามมาคือ หากจัดวางตำแหน่งโทรศัพท์ ตำแหน่งของพระ และจัดทิศทางของแสงไฟไม่ถูกต้อง โทรศัพท์จะบังแสง แสงเข้าไม่ถึงพระ ส่งผลให้พระมืด ภาพจะขาดความคมชัดและสวยงาม วิธีแก้ปัญหาดังกล่าว ทำได้โดยวางพระให้ชิดขอบด้านบนของโทรศัพท์มากที่สุด เหลือระยะขอบข้างเล็กน้อยไว้เป็นฉากหลังเท่านั้น และให้ส่องไฟเข้ามาทางด้านข้างของพระ  (แตกต่างจากการจัดไฟต่ำซึ่งจะส่องไฟมาทางด้านศรีษะพระ) การวางพระชิดขอบด้านดังกล่าว และส่องไฟมาทางด้านดังกล่าว เป็นตำแหน่งที่แสงไฟเข้าถึงพระมากที่สุด และโทรศัพท์บังแสงน้อยที่สุด ตรงนี้คือเทคนิคสำคัญ ให้สังเกตและจัดวางสิ่งๆต่างให้ได้เหมือนตามภาพนะครับ
   



     ก่อนนำภาพพระไปใช้ในแอป Photoroom ให้ตัดส่วนเกินออกให้พอดี ตามภาพด้านล่าง


   หลังจากใช้โปรแกรม Photoroom เปลี่ยนสีพื้นหลัง จะได้ภาพพระเครื่อง ตามภาพด้านล่าง


   ต่อไปจะแสดงภาพถ่าย พระเหรียญหลวงพ่อคูณ ซึ่งเป็นเหรียญรมดำมันปู เปรียบเทียบภาพถ่าย ให้เห็นความแตกต่างระหว่างการใช้ไฟสูง กับการใช้ไฟต่ำ
   ภาพด้านล่าง เป็นการใช้ไฟต่ำ จะเห็นว่าสีผิวพระจะด้าน ไม่สวย




   ภาพด้านล่าง เป็นการใช้ไฟสูง จะเห็นว่าสีผิวจะสวย ออกผิวรุ้ง ผิวปรอท และให้สังเกต การจัดวางพระ ให้จัดพระอยู่ชิดขอบหน้าจอโทรศัพท์ด้านที่แสงเข้ามาให้มากที่สุด